เชฟบิลลี่

เชฟมาว

เชฟบิลลี่ บาวทิสต้า
และเชฟมอริชิโอ โรซาเลส

คู่หูเชฟ จากร้าน Billy’s & Santiaga มักนำเสนออาหารที่ได้รับอิทธิพลจากหลากหลายวัฒนธรรม โดยเฉพาะอาหารยุโรปและเมดิเตอร์เรเนียน พวกเขาได้สร้างชื่อเสียงให้กับร้านอาหารของพวกเขาด้วยการใช้วัตถุดิบที่สดใหม่และคุณภาพสูง พร้อมกับการนำเสนอเทคนิคการปรุงอาหารที่ทันสมัย

เชฟบิลลี่ มีประสบการณ์ในการทำงานในครัวหลากหลายแห่งในยุโรป ก่อนที่จะเปิดร้าน Billy’s & Santiaga เขามีความหลงใหลในวัตถุดิบท้องถิ่นและการปรุงอาหารที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรสชาติ ส่วนเชฟมาวมีประสบการณ์ในครัวที่หลากหลายเช่นกัน และเชี่ยวชาญในเทคนิคการทำอาหารร่วมสมัย เขามีแนวคิดที่สร้างสรรค์ในการผสมผสานวัตถุดิบต่างๆ จากทั่วโลก เพื่อให้ได้รสชาติที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ร้าน Billy’s & Santiaga มีชื่อเสียงจากการเป็นร้านที่เน้นการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ผสมผสานกับเทคนิคและรสชาติจากยุโรปและเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้เมนูที่ออกมามีความเป็นเอกลักษณ์และมีคุณภาพสูง

เชฟบยอร์น แฟรนท์เซน

เชฟบยอร์น แฟรนท์เซน เชฟชื่อดังชาวสวีเดนที่มีชื่อเสียง เกิดในปี 1977 ที่กรุงสตอกโฮล์ม ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วงการทำอาหาร เขาเคยเป็นนักฟุตบอลที่มีอนาคตไกลกับสโมสร AIK ซึ่งเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวีย แต่ต้องเลิกเล่นเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ทำให้เขาหันมาเบนเข็มทำอาหารเป็นหลัก หลังจากที่เขาเสร็จสิ้นการเกณฑ์ทหาร เขาได้รับการฝึกฝนที่ Edsbacka Krog ซึ่งเป็นร้านอาหารแห่งแรกในสวีเดนที่ได้รับ 2 ดาวมิชลิน ภายใต้เชฟคริสเตอร์ ลิงสตรอม เขายังได้พัฒนาทักษะของตัวเองในครัวที่มีชื่อเสียงอย่างเรย์มอนด์ บลองค์ Raymond Blanc และอแลง พาสสาร์อีกด้วย

ในปี 2008 เชฟบยอร์นได้เปิดร้านอาหารแห่งแรกของเขาชื่อ Frantzén/Lindeberg ซึ่งได้รับชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว และได้รับดาวมิชลินดวงแรกภายใน 10 เดือน ต่อมา ร้าน Frantzén ก็กลายเป็นร้านอาหารแห่งแรกในสวีเดนที่ได้รับ 3 ดาวมิชลิน เป็นการยืนยันถึงความสร้างสรรค์ในการผสมผสานระหว่างอาหารนอร์ดิกและอิทธิพลจากญี่ปุ่นและเทคนิคฝรั่งเศส ความคิดริเริ่มของเขาในการทำอาหารชั้นสูงเน้นความสมดุลของรสชาติ ความเป็นฤดูกาล และประสบการณ์การรับประทานที่น่าประทับใจ ปัจจุบันร้านอาหารของเขาขยายตัวไปหลายประเทศ รวมถึงฮ่องกงและสิงคโปร์

นอกจากความสำเร็จในด้านการทำอาหารแล้ว เชฟบยอร์นยังให้ความสำคัญกับความเป็นมืออาชีพและการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นหลักการที่เขานำมาจากประสบการณ์ในฐานะนักฟุตบอล

เชฟบยอร์น แฟรนท์เซน

เชฟชาลี เคเดอร์

เชฟชาลี เคเดอร์

เชฟชาลี เคเดอร์ เชฟไทยเชื้อสายอินเดียที่เกิดและเติบโตในประเทศไทย เป็นบุคคลสำคัญในวงการอาหารของเมืองกรุงเทพฯ มีชื่อเสียงมาจากการตีความอาหารไทยในรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะอาหารอีสาน ในฐานะเชฟผู้ดูแลร้าน 100 Mahaseth (รางวัลบิบ กูร์มองด์) และ Wana Yook (หนึ่งดาวมิชลิน) ในคู่มือมิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ปี 2024 เชฟชาลีให้ความสำคัญกับการทำอาหารอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะแนวคิดที่ให้ใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบอย่างเนื้อสัตว์โดยไม่ให้สูญเปล่า แนวคิดนี้เข้ากับเทคนิคการทำอาหารไทยแบบดั้งเดิมซึ่งถูกหลงลืมไปบ้างในยุคปัจจุบัน

ที่ร้าน 100 Mahaseth เชฟชาลีสร้างชื่อเสียงจากการเฉลิมฉลองรสชาติที่เข้มข้นและเผ็ดร้อนของอาหารอีสาน พร้อมส่งเสริมการทำอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมนูของเขาแสดงถึงความเคารพต่อวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง โดยผสมผสานกับเทคนิคสมัยใหม่ นอกจากนี้เขายังให้ความสำคัญกับการลดขยะอาหาร และการนำเครื่องในสัตว์มาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งมักจะถูกมองข้ามในครัวสมัยใหม่

นอกเหนือจากร้านอาหารของเขาแล้ว เชฟชาลียังเป็นที่รู้จักจากการร่วมมือสร้างสรรค์เมนูอาหารกับเชฟคนอื่นๆ และความชื่นชอบในไวน์และอาหารริมทาง ทำให้เขาเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมอาหารที่กำลังเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย

เชฟเฮนดริก แอนเดอร์เซน

เชฟชาวเดนมาร์กที่มีชื่อเสียงจากการนำเสนออาหารไทยแนวสร้างสรรค์ เขามีบทบาทสำคัญในการผสมผสานรสชาติไทยแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่ รวมถึงการใช้วิธี Molecular Gastronomy ที่นำเสนอเมนูแปลกใหม่

เชฟเฮนดริกเริ่มต้นทำอาหารไทยมากว่าสิบปีแล้ว แม้ว่าในช่วงแรกจะมีผู้สงสัยในวิธีการสร้างสรรค์ของเขา แต่สุดท้ายก็ได้รับการยอมรับจากผู้ชื่นชอบอาหารไทย จุดเด่นของเขาคือการสร้างความสมดุลในรสชาติอาหารไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาให้ความสำคัญในทุกเมนู พร้อมกับการนำเสนอรูปแบบใหม่ ๆ ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

แม้ว่าจะประสบความสำเร็จแล้ว เชฟเฮนดริกยังคงทดลองและพัฒนาเมนูใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยมุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบไทยแท้ในวิธีการทำอาหารที่ทันสมัย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครให้กับลูกค้า

เชฟเฮนดริก แอนเดอร์เซน

เชฟเคนจิ นาคายามะ

เชฟเคนจิ นาคายามะ

เชฟเคนจิ นาคายามะทำงานเป็นผู้กำกับรายการโทรทัศน์ในญี่ปุ่นที่เลือกลาออกในปี 2000 เขามาทำงานเป็นพนักงานในร้านขนมและกระท่อมบนภูเขา เชฟเคนจิยังทำงานเป็นไกด์บนภูเขา ช่างภาพอิสระ นักเขียน และนักสโนว์บอร์ดมืออาชีพ ต่อมาเขาตัดสินใจเดินเส้นทางการเป็นเชฟและเข้าสู่โลกของอาหารญี่ปุ่น หลังจากทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่น อิซากายะ และร้านซูชิ ในปี 2008 เคนจิย้ายมาที่กรุงเทพฯ ในฐานะเชฟอาหารญี่ปุ่นที่ ‘Face Bangkok’ และในปี 2012 เขาก่อตั้ง KENJI’S LAB ขึ้นในที่สุด นอกจากการทำอาหารแล้ว เชฟเคนจิยังเป็นที่รู้จักในด้านทักษะการปีนเขาและการเอาชีวิตรอดในธรรมชาติ

เชฟเคนจิ ผู้เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง Kenji’s Lab ในย่านทองหล่อของกรุงเทพฯ มีชื่อเสียงจากการนำเสนออาหารญี่ปุ่นที่ผสมผสานการทดลองใหม่ๆ ในการปรุงอาหาร ที่ Kenji’s Lab เขาผสานรสชาติแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นเข้ากับลูกเล่นการทำอาหารที่สร้างสรรค์ เขาได้รับการยอมรับในเรื่องการสร้างสรรค์จานอาหารที่เรียบง่ายแต่ลุ่มลึกในรสชาติ เช่น ปลาซาบะรมควันกับผักชี หรือพาสต้าแบบญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความสามารถของเขาในการคิดค้นเมนูใหม่ ๆ ในขณะที่ยังคงยึดถือเทคนิคญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ทำให้ร้านของเขาเป็นที่นิยม โดยเฉพาะในกลุ่มชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในไทย

นอกเหนือจากอาหารที่คิดค้นขึ้นใหม่ เชฟเคนจิยังมักแนะนำเครื่องดื่มที่เข้ากับอาหารเพื่อยกระดับประสบการณ์การรับประทาน เขามุ่งเน้นการสร้างสมดุลของรสชาติและการทดลอง จนได้รับความชื่นชมจากลูกค้าที่ติดตามเป็นประจำ ทำให้ Kenji’s Lab กลายเป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในการรับประทานอาหารญี่ปุ่น

เชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์ และ เชฟจิ๊บ-กัญญารัตน์ ถนอมแสง

ร้าน “แก่น” ร้านอาหารภายใต้คอนเซปท์ Casual Fine Dining แห่งแรกของจังหวัดขอนแก่น ที่เป็นการก่อตั้งร่วมกันระหว่างเชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์ และ เชฟจิ๊บ-กัญญารัตน์ ถนอมแสง ที่สะสมประสบการณ์ทำงานด้านอาหารมากว่า 20 ปี ในโรงแรมระดับห้าดาวทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนานที่ชีวาศรม แบรนด์ Wellness Hotel ชื่อดัง จนวันหนึ่งทั้งคู่ทำตามความฝันในการออกมาเปิดร้านอาหารไทยร่วมสมัยเพื่อแสดงตัวตนในพื้นของตนเอง

เชฟไพศาลผู้ที่มีพื้นฐานด้านการทำอาหารระดับนานาชาติและเป็นที่รู้จักจากการปรับปรุงอาหารไทยให้มีมิติใหม่ ในขณะที่เชฟจิ๊บมีความเชี่ยวชาญในการทำอาหารไทยดั้งเดิม ทั้งคู่ร่วมกันสร้างสรรค์เมนูที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่น ซึ่งทำให้ร้านแก่นได้รับการยอมรับและชื่นชมจากนักชิมทั้งในและต่างประเทศ ร้านแก่นจึงเน้นการนำเสนออาหารไทยร่วมสมัยที่ผสมผสานวัตถุดิบท้องถิ่นจากภาคอีสานเข้ากับเทคนิคการปรุงอาหารสากล

เชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์

เชฟจิ๊บ-กัญญารัตน์ ถนอมแสง

เชฟ เปาโล วิทาเลตติ

เชฟ เปาโล วิทาเลตติ

เชฟชาวอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงจากการนำอาหารอิตาเลียนแท้ๆ มาสู่กรุงเทพฯ เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งร้าน Appia ซึ่งเป็นร้านอาหารสไตล์โรมันทรัตโทเรีย โดยเชฟได้รับแรงบันดาลใจจากสูตรอาหารของครอบครัว นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ก่อตั้งร้านพิซซ่า Peppina ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะพิซซ่าแบบ Neapolitan ที่ได้รับการรับรองจาก Associazione Vera Pizza Napoletana ว่าเป็นพิซซ่าอิตาเลียนแท้

เชฟ Paolo มาจากกรุงโรม โดยแนวทางการทำอาหารของเขาผสมผสานระหว่างความดั้งเดิมกับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ผ่อนคลาย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนท้องถิ่นและชาวต่างชาติในกรุงเทพฯ เขายังคงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนในกรุงเทพฯ ด้วยความหลงใหลในวัตถุดิบคุณภาพและเทคนิคการทำอาหารแบบดั้งเดิม

เชฟ ริคาโด นูเนส

เชฟริคาร์โด นูเนส เชฟใหญ่ชาวโปรตุเกสจากอาหาร Hom ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท เส้นทางการทำอาหารของเขาเริ่มต้นเมื่ออายุ 19 ปี และต่อมาเขาได้พัฒนาทักษะในการทำอาหารที่ร้านระดับมิชลินสตาร์ เช่น ร้าน Potong, La Dame de Pic, และ Gaggan ที่ Hom เชฟนูเนสเน้นปรัชญาการทำอาหารที่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบเป็นหลัก โดยเลือกใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นในภูเก็ต เขาผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมกับความทันสมัย โดยมักใช้การหมักเพื่อเพิ่มรสชาติ

เมื่อได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของการถนอมอาหาร เชฟริคาร์โดสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร โดยนำเสนอเมนูที่โดดเด่น เช่น มะพร้าวกับคาเวียร์รมควัน หรือกั้งหมักเกลือชิโอะโคจิ แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและความสมบูรณ์ของวัตถุดิบไทยในเมนูชิมรส 10 คอร์ส การทำงานของเขาที่ Hom ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในเรื่องความยั่งยืนและอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องถิ่น

เชฟ ริคาโด นูเนส

เชฟหนุ่ม วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์

เชฟหนุ่ม วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์

เชฟหนุ่มเกิดและเติบโตที่ จ.อุดรธานี ซึ่งอยู่ในภาคอีสานของประเทศไทย ซึ่งเป็นเจ้าของร้านและ เอ็กแซกคูทีฟ เชฟ ร้าน ซาหมวย แอนด์ ซันส์ นอกจากนี้ยังเป็นผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง หมาน้อย ฟู๊ดแล็บ โดยการปรุงอาหารของเชฟเน้นการนำวัตถุดิบตามฤดูกาลในท้องถิ่นขึ้นมายกระดับ เชิดชู อนุรักษ์ นำภูมิปัญญา วัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นในภูมิภาค เพื่อยกระดับอาหารอีสานให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก

อีกทั้งยังหาข้อมูลเพิ่มเติมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับเกษตรกรในท้องถิ่นเพื่อพัฒนาคุณภาพวัตถุดิบในอีสาน รวมถึงการนำเทคนิคเรื่องการหมักดองมาประยุคกับวัตถุดิบในพื้นที่ เก็บข้อมูลไว้เพื่อแบ่งปันให้เกิดประโยชน์ และยกระดับต่อยอดให้กับเกษตรกรท้องถิ่นได้ในอนาคต

เชฟแบล๊ก ภานุภน บุลสุวรรณ

เชฟแบล็ค เป็นผู้ก่อตั้ง Blackitch Artisan Kitchen ร้านอาหารที่หยั่งรากลึกในหัวใจและแก่นแท้ของวัตถุดิบท้องถิ่นของไทย นำเสนอเมนูตามฤดูกาลที่สร้างสรรค์เป็นพิเศษ โดยเชฟเรียกสไตล์อาหารของตนว่า “Holistic Localized Artisanal Cuisine” ซึ่งทุกจานเน้นการลดขยะเป็นศูนย์ และให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อาหาร

เชฟแบล็คนำรสชาติธรรมชาติของวัตถุดิบท้องถิ่นมาสร้างความโดดเด่นผ่านวิทยาศาสตร์การทำอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิปัญญาโบราณ ทุกจานถูกสร้างสรรค์ตามปรัชญา “Good-Clean-Fair” เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารทุกองค์ประกอบปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค สะอาดต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วม ตั้งแต่ฟาร์มจนถึงโต๊ะอาหาร

 

โดยจัดในรูปแบบ Chef’s Table เชฟแบล็คและทีมงานใช้โอกาสนี้ในการให้ความรู้กับผู้ที่มารับประทานอาหารถึงกระบวนการปลูกและการคัดเลือกวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างพิถีพิถัน จนมาถึงจานอาหาร เชฟแบล็คขับเคลื่อนด้วยความรักและความหลงใหลในการทำอาหาร เขาหวังว่าปรัชญาการทำอาหารแบบยั่งยืนของเขาจะไม่เพียงมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่อบอุ่นเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนวงการอาหารให้มีความหมายขึ้นในทุกๆ คำ

เชฟแบล๊ก ภานุภน บุลสุวรรณ

ป้าเชฟ ศิโรรัตน์ เถาว์โท

ป้าเชฟ ศิโรรัตน์ เถาว์โท

ป้าเชฟ หรือศิโรรัตน์ เถาว์โท คือเจ้าของร้าน หมก ในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งได้รับการยกย่องด้วยรางวัล Bib Gourmand จากมิชลิน 2 ปีซ้อน ร้านของเธอนำเสนออาหารอีสานที่มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับแนวทางการทำอาหารสมัยใหม่ โดยมีเมนูที่สะท้อนความเป็นท้องถิ่นและวัตถุดิบที่สดใหม่ นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ “มัก” ที่เป็นการขายผลิตภัณฑ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารอีสานที่เธอสร้างสรรค์เอง

เชฟคำนาง ณัฏฐภรณ์ คมจิต

เชฟชาวอีสานจากจังหวัดขอนแก่น ผู้ก่อตั้งร้านอาหาร “เฮือนคำนาง” ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการนำเสนอวัฒนธรรมและอาหารอีสานแบบดั้งเดิม เชฟคำนางเริ่มต้นอาชีพในฐานะนักข่าว โดยเคยทำงานด้านการเมือง ก่อนที่เธอจะเปลี่ยนเส้นทางมาเป็นเชฟ เพื่อสื่อสารความงดงามและคุณค่าของอาหารอีสานให้กับผู้คนผ่านการปรุงอาหาร เธอได้สร้างสรรค์ “พาข้าว” หรือสำรับอาหาร ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น ซึ่งเชื่อมโยงคนกับธรรมชาติและความเรียบง่ายในการดำรงชีวิตแบบชาวอีสานดั้งเดิม

แรงบันดาลใจในการเปลี่ยนอาชีพมาจากความต้องการที่จะฟื้นฟูศักดิ์ศรีของวัฒนธรรมอีสานที่ถูกเข้าใจผิดจากภาพลักษณ์ที่คนเคยเข้าใจ เธอต้องการแสดงให้อีสานเป็นที่รู้จักในแบบที่แท้จริง ไม่เพียงแค่อาหารยอดนิยมอย่างส้มตำหรือลาบ แต่รวมถึงความลึกซึ้งของวัตถุดิบและการกินแบบครอบครัวในวิถีชาวอีสาน

เชฟคำนาง ณัฏฐภรณ์ คมจิต

เชฟ ฮิโตชิ สุกิอุระ

เชฟ ฮิโตชิ สุกิอุระ

เชฟฮิโตชิ สุกิอุระ เชฟชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในด้านการผสมผสานเทคนิคการทำอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมกับนวัตกรรมสมัยใหม่ เขาเป็นที่รู้จักจากการใช้วัตถุดิบสดใหม่และมีคุณภาพสูงในทุกจานอาหาร เชฟฮิโตชิเริ่มต้นเส้นทางการทำอาหารของเขาด้วยการฝึกฝนอย่างเข้มงวดในประเทศญี่ปุ่น โดยเรียนรู้การทำอาหารจากครัวที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง

นอกจากความเชี่ยวชาญในอาหารญี่ปุ่นแล้ว เชฟฮิโตชิยังมีความสามารถในการนำเสนออาหารที่มีกลิ่นอายสากล ซึ่งทำให้เขาสามารถนำเสนออาหารที่มีเอกลักษณ์และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าจากทั่วโลก

เชฟอินจอน คิม

เชฟชาวเกาหลี ผู้เชี่ยวชาญการทำอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิมที่ร้าน Onggi ในกรุงเทพมหานคร เขาจะใช้วัตถุดิบเกาหลีสดใหม่ และมุ่งมั่นนำเสนออาหารที่มีรสชาติกลมกลืน โดยมีเป้าหมายในการนำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างความรู้สึกถึงวัฒนธรรมเกาหลีให้กับผู้บริโภค มากกว่านั้นเขายังใส่ใจในรายละเอียดในทุก ๆ จาน จนทำให้ผู้รับประทานสัมผัสได้ถึงประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เป็นเอกลักษณ์​

เชฟอินจอน คิม

เชฟเคนสุเกะ ซาซากิ

เชฟเคนสุเกะ ซาซากิ

ฟูนาซูชิจากเมืองชิกะ ทำให้นึกถึงปลาร้า จุดนี้เองที่เชฟจากแดนอาทิตย์อุทัย เคนสุเกะ ซาซากิ ข้ามน้ำข้ามทะเลเข้ามาเผยมุมมองและถ่ายทอดการทำซูชิของเขา ด้วยแรงบันดาลใจจากวัตถุดิบรอบตัว และความใส่ใจในกรบะวนการต่าง ๆ ของเชฟ การได้ลองลิ้มและสัมผัส อาจจะสร้างแรงบันดาลใจครั่งใหญ่ให้กับมื้อหน้าของชีวิตคุณ

เชฟแพทริน่า โล๊ะห์

เชฟแพทริน่า โล๊ะห์ จากร้าน Morsels ประเทศสิงคโปร์ เป็นเชฟที่มีชื่อเสียงในด้านการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและการสร้างสรรค์เมนูที่มีรสชาติกลมกลืน เธอมีความหลงใหลในการทำอาหารและใช้เทคนิคการหมักดองเพื่อเพิ่มรสชาติในจานอาหาร การทำอาหารของเธอนอกจากจะอร่อยแล้วยังมีความคิดสร้างสรรค์และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารของเธอยังได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภค และเป็นที่จับตานักวิจารณ์อาหาร​ในทุกครั้ง

เชฟแพทริน่า โล๊ะห์

เชฟวอลเตอร์ เอล เนการ์

เชฟวอลเตอร์ เอล เนการ์

เชฟชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านการทำอาหารตะวันตก เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเทคนิคการทำอาหารที่เลือกใช้วัตถุดิบดีและมีคุณภาพ เพื่อสร้างสรรค์เมนูสุดทึ่ง สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ และประสบการณ์ที่บ่มสุกมาอย่างยาวนานในวงการอาหาร

เชฟกัน ไบรท์ ซาน

เชฟกัน ไบรท์ ซาน เป็นเชฟชาวมาเลเซียที่มีความเชี่ยวชาญในอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฝรั่งเศส และอิตาลี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเชฟใหญ่ที่โรงแรม Ad Lib ขอนแก่น เชฟไบรท์ได้รับการฝึกฝนเป็นเชฟมืออาชีพจากศูนย์ฝึกอบรมและการศึกษาแห่งสมาคมโรงแรมสิงคโปร์ เชฟไบรท์ผสมผสานทักษะ ความเรียบง่าย และความแท้จริงเพื่อมอบคุณภาพที่ดีที่สุดในทุกจาน

เชฟกัน ไบรท์ ซาน

เชฟปริญ ผลสุข

เชฟปริญ ผลสุข

เชฟผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทยแห่ง Samrub Samrub Thai ที่มีความตั้งใจในการอนุรักษ์รสชาติและวิธีการปรุงแบบดั้งเดิม จากประสบการณ์การทำงานที่ Nahm ร้านอาหารไทยระดับมิชลินสตาร์ เชฟปริญ ได้เรียนรู้และเก็บสะสมสูตรอาหารที่หายากและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภาคของไทย

สำหรับที่ Samrub Samrub Thai เขาใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและพืชสมุนไพรเฉพาะถิ่นในการรังสรรค์เมนูที่ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังเชื่อมโยงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทยในอดีต เชฟ Prin นำเสนออาหารด้วยความใส่ใจในรายละเอียด ให้ผู้ทานได้สัมผัสประสบการณ์ที่ล้ำค่าและรสชาติไทยแท้ในแบบที่หาที่อื่นได้ยาก

แม่ราตรี ศรีวิไล

แม่ราตรี ศรีวิไล

แม่ราตรี ศรีวิไล (ราตรีศรีวิไล บงสิทธิพร) เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (หมอลำประยุกต์) ประจำปี พ.ศ. 2565 ถือเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลในการพัฒนาหมอลำยุคใหม่ โดยเฉพาะการนำหมอลำซิ่งและหมอลำกลอนมาประยุกต์ให้ทันสมัย และเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้อย่างกว้างขวาง เธอเกิดและเติบโตในครอบครัวที่สืบทอดศิลปะหมอลำ และได้รับการฝึกฝนจากครูหมอลำสง่าจิต ซึ่งเป็นพี่ชายของเธอ

ในช่วงชีวิตของแม่ราตรี เธอได้สร้างสรรค์ผลงานหมอลำที่ผสมผสานดนตรีสมัยใหม่และเครื่องดนตรีหลากหลาย รวมถึงการพัฒนารูปแบบการแสดงที่สามารถดึงดูดผู้ชมหลากหลายกลุ่ม เธอมีบทบาทสำคัญในการทำให้หมอลำเป็นที่นิยมในวงกว้าง ไม่เพียงแค่ในภาคอีสานแต่ทั่วประเทศไทย นอกจากการเป็นศิลปินหมอลำที่มีชื่อเสียงแล้ว แม่ราตรียังเป็นครูและผู้เผยแพร่วัฒนธรรมหมอลำ โดยมีการสอนและถ่ายทอดความรู้แก่คนรุ่นหลัง อีกทั้งเธอยังได้รับรางวัลมากมายตลอดชีวิตการทำงานของเธอ ซึ่งรวมถึงการได้รับรางวัล “ผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม” และการได้รับเข็มเชิดเกียรติจากนายกรัฐมนตรีในฐานะ “ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น”

ระเบียบวาทะศิลป์

วงระเบียบวาทะศิลป์ถือเป็นหนึ่งในวงหมอลำที่มีชื่อเสียงที่สุดของภาคอีสาน ก่อตั้งโดยคุณพ่อระเบียบและคุณแม่ดวงจันทร์ในจังหวัดขอนแก่น โดยมีสมาชิกเริ่มแรกเพียง 4 คน แต่ปัจจุบันได้ขยายขนาดและได้รับความนิยมอย่างมากในวงการหมอลำ วงนี้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือการนำเสนอศิลปะการแสดงที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับประเพณีดั้งเดิม แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไป แต่ความนิยมของวงก็ไม่ลดลง ในปี 2022 ระเบียบวาทะศิลป์ได้มีโอกาสขึ้นแสดงในงาน Miss Grand Thailand และล่าสุดจะขึ้นแสดงในเทศกาล Big Mountain Music Festival

ระเบียบวาทะศิลป์

ประถมบันเทิงศิลป์

ประถมบันเทิงศิลป์

วงหมอลำนี้ ก่อตั้งโดยคุณแม่บุญถม นามวันทาในปี 2500 วงประถมบันเทิงศิลป์ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในวงหมอลำอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ทางวงนำเสนอศิลปะและวรรณกรรมพื้นบ้านอีสานที่หลากหลาย ปัจจุบันนำโดยดาบ สันติ สิมเสน ลูกชายของคุณแม่บุญถม ซึ่งได้พัฒนาการแสดงให้มีความทันสมัยมากขึ้น ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีเสียงและแสง มากกว่านั้น ประถมบันเทิงศิลป์ยังมีการแสดงที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่อย่างน่าสนใจ

สาวน้อยลำเพลิน Show

สาวน้อยลำเพลินโชว์ เป็นวงหมอลำที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในวงการบันเทิง โดยเฉพาะในด้านการนำเสนอการแสดงที่มีความสดใสและสนุกสนาน โดยวงนี้มีการนำเสนอผลงานที่สามารถเข้าถึงผู้ชมทุกเพศทุกวัย ด้วยการแสดงที่มีพลังและจังหวะที่น่าตื่นเต้น วงสาวน้อยลำเพลินโชว์ยังมุ่งเน้นการสื่อสารเรื่องราวของวรรณกรรมพื้นบ้านและวัฒนธรรมอีสานผ่านการแสดงที่มีคุณภาพและสร้างสรรค์

สาวน้อยลำเพลิน Show

มาร์ก บักลีย์

มาร์ก บักลีย์

Systems Expert & Ecological Economist UN, WEF,
Inside Ideas & ALOHAS Regenerative Foundation

มาร์กเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำงาน ESG และการพัฒนาที่ยั่งยืน เขาให้คำปรึกษาแก่บริษัทต่างๆ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเป้าหมายของเขาคือการปฏิรูปการเกษตร อาหาร และเครื่องดื่ม หรืออุตสาหกรรมที่อาจสร้างผลกระทบอย่างรวดเร็ว

 

มาร์กเดินทางสอน และบรรยายไปทั่วโลกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการปฏิรูปอาหาร เขาสอนผู้ประกอบการให้คำนึงถึงวิธีการสร้างและวิธีการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีกำไร เขามักให้คำปรึกษาแก่บริษัทต่าง ๆ ในด้านพลังงานทดแทน การเปลี่ยนแปลงด้วยความเชี่ยวชาญในระบบนวัตกรรม การรีไซเคิล บรรจุภัณฑ์ วิถีออร์แกนิก วิถีดั้งเดิม รวมถึงสินค้าวีแกน

 

ในฐานะ Social Serial Entrepreneur มาร์กเคยร่วมงานกับหลากหลายบริษัท เช่นเดียวกับธุรกิจระหว่างประเทศหลายแห่งของครอบครัว ด้วยความที่เขาเติบโตมาในครอบครัวเกษตรอินทรีย์รายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 6 รุ่น ที่่เป็นทั้งนักปฐพีวิทยาด้านการปลูกพืชไร้ดินของยุโรป (European Hydroponic Agronomists) มาถึง 4 รุ่นด้วย

ดร.ศิริกุล เลากัยกุล

ผู้อำนวยการ Sustainable Brands ประเทศไทย

ดร.ศิริกุลได้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาของตนเองหลังจากทำงานให้กับบริษัทระดับโลกมาเกือบยี่สิบปี พันธกิจของบริษัทของเธอคือการเป็นบริษัทที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ขนาดเล็กแต่มีความสามารถ โดยมีเป้าหมายในการทำงานร่วมกับลูกค้าชาวไทยที่เชื่อมั่นอย่างแท้จริงในการสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืนและวิธีการที่เป็นระบบ โดยแนวทางการพัฒนากลยุทธ์แบรนด์ของเธอจะยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ภูมิหลังของเธอมีตั้งแต่การสื่อสารไปจนถึงการจัดการ ไปจนถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน เมื่อผสมผสานรวมกันระหว่างไหวพริบเชิงสร้างสรรค์และการคิดเชิงกลยุทธ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เธอเป็นที่ปรึกษาที่ ‘ไม่เหมือนใคร’

 

ดร.ศิริกุลสามารถให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์และแบบองค์รวมที่สมเหตุสมผลและนำไปใช้ได้จริงสำหรับปัญหาของลูกค้าแต่ละราย จุดแข็งของเธอคือความเชี่ยวชาญของเธอในการพัฒนากลยุทธ์แบรนด์ที่น่าสนใจ—โมเดลแบรนด์และสถาปัตยกรรมแบรนด์ รวมถึง CSR ของแบรนด์

 

เธอเป็นตัวแทนของ SB (Sustainable Brands) ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2559 และประสบความสำเร็จในการจัดประชุมในแวดวงธุรกิจมากว่า 8 ปี นอกจาก SB แล้ว เธอยังริเริ่มโครงการ “พอแล้วดี The Creator” โครงการที่มุ่งสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ดร.ศิริกุล เลากัยกุล

คุณขนิษฐา ตั้งวรพจน์พิธาน

คุณขนิษฐา ตั้งวรพจน์พิธาน

คุณขนิษฐา ตั้งวรพจน์พิธาน

สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีเกียรตินิยม สาขาวรรณคดีอังกฤษและภาษาศาสตร์ จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท สาขาการตลาด (MIM in English) ในฐานะรองกรรมการผู้จัดการของ INTAGE Thailand ซึ่งเป็นสาขาของ INTAGE Holdings Group ในประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยและข้อมูลเชิงลึกอันดับ 1 ในเอเชีย เธอเป็นผู้ริเริ่มการใช้เครื่องมือดิจิทัลสำหรับงานวิจัยที่ INTAGE Thailand, AMP – Asia mobile & digital panel และ CEI (การตรวจสอบการมีส่วนร่วมของลูกค้าโดยการใช้ Big Dta และการวิเคราะห์ลูกค้าถึงวัดผลการมีส่วนร่วมของลูกค้าและ NPS) ความคิดริเริ่มนี้ทำให้ INAGE Thailand กลายเป็นเอเจนซี่ด้านการวิจัยและข้อมูลเชิงลึกด้านดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย ตลอดช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา

 

เธอยังทำงานและมีประสบการณ์เป็นที่ปรึกษาด้านแบรนด์และการตลาดขณะทำงานที่ Dentsu Young & Rubicam (DY&R) ประเทศไทย, Ogilvy Advertising และ McCann Worldgroup โดยมีส่วนร่วมสร้างแบรนด์ระดับโลกตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยประสบการณ์ของเธอ เธอยังได้แบ่งปันความรู้ของเธอในฐานะวิทยากรและผู้ฝึกอบรมในหัวข้อต่างๆ เช่น ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค การกำหนด segmentation-targeting-positioning การตลาดด้าน Content และ Influencer และ Customer Experience  (CX)

ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เธอได้พูดคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัย SMEs นักการตลาด และผู้บริหารระดับสูงมากมายทั่วทั้งประเทศไทยและเอเชีย โดยเธอเน้นย้ำถึงความเชื่อใน “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ในการสร้างแบรนด์และการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยการวัดผลกระทบที่รับประกันได้

นิลเนตร องอาจถาวร

นิลเนตร องอาจถาวร เป็นนักวิชาการและนักเขียนที่เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมญี่ปุ่นและมรดกทางวัฒนธรรม เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น และปริญญาโทสาขาตลาดโลกและความสร้างสรรค์ท้องถิ่น (GLOCAL) จากมหาวิทยาลัย Erasmus University Rotterdam ซึ่งร่วมกับมหาวิทยาลัยกลาสโกว์และมหาวิทยาลัยบาร์เซโลนา ผลงานของเธอมุ่งเน้นที่การศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างมรดกทางวัฒนธรรมและตลาดโลก โดยเฉพาะการอนุรักษ์งานหัตถกรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น เช่น การทำกิโมโน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความสำคัญระดับสากล​ ในงานปลาร้าหมอลำครั้งนี้ นิลเนตรจะมาร่วมตีความเบื้องหลังอาหารจานเด็ดอย่าง “ปลาร้า” ถึงสถานะและบทบาท เพื่อชวนขบคิดกันว่า ทำไม ถึง “เน่าแล้วดี”

นิลเนตร องอาจถาวร

คุณหม่ำ จ๊กม๊ก

คุณหม่ำ จ๊กม๊ก

MUM Zab

คุณเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หม่ำ จ๊กม๊ก” นักแสดงตลกชื่อดังของไทย ได้เข้าสู่วงการอาหารผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าปรุงรสแบรนด์ “MUM Zab” ซึ่งเป็นน้ำปลาร้าปรุงรสที่สะท้อนรสชาติแบบอีสานแท้ๆ โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์คือความเข้มข้นและรสชาติจัดจ้านซึ่งเหมาะกับการประกอบอาหารหลายประเภท โดยคุณหม่ำใช้ชื่อเสียงและภูมิหลังของตนในฐานะคนอีสาน สร้างแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในตลาดอย่างกว้างขวาง​

คุณพิชิต วีรังคบุตร

CEA

คุณพิชิต วีรังคบุตร บุคคลสำคัญแห่งหน่วยงาน Creative Economy Agency (CEA) หรือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งประเทศไทย คุณพิชิตมีบทบาทในการส่งเสริมและผลักดันโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมเพื่อพัฒนาวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย งานของเขามุ่งเน้นการผสมผสานศิลปะดั้งเดิมของไทยเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และยกระดับความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีระดับโลก​

คุณพิชิต วีรังคบุตร

คุณไกรสร กองฉลาด

คุณไกรสร กองฉลาด

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ไกรสร กองฉลาด เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาจังหวัดผ่านการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ท่านเป็นที่รู้จักกันดีในด้านความมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และสร้างความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ เพื่อพัฒนาจังหวัดขอนแก่นให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของภาคอีสาน  และเป็นส่วนหนึ่งของจุดเริ่มต้นของงาน “ปลาร้าหมอลำ” ที่มาจากความต้องการของจังหวัดขอนแก่นที่จะนำเสนอภูมิปัญญาอันทรงคุณค่าของภาคอีสาน เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมและขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้จังหวัดขอนแก่นและภาคอีสานอย่างยั่งยืนต่อไป

ดร.ปรเมษฐ์ ชุมยิ้ม

ที่ปรึกษาอาวุโส เมืองนวัตกรรมอาหาร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ผู้จัดการแพลตฟอร์มเร่งรัดพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรมอาหารทุกระดับ

ดร.ปรเมษฐ์ ชุมยิ้ม เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์และนวัตกรรมอาหารที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และธุรกิจอาหารนวัตกรรม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสประจำเมืองนวัตกรรมอาหาร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

ด้วยความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาดและพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจ ดร.ปรเมษฐ์ ได้ช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการอาหารไทยหลายร้อยรายสามารถสร้างผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ตลาดและเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการบริหารแพลตฟอร์มเร่งรัดพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรมอาหาร ที่ครอบคลุมตั้งแต่ผู้ประกอบการระดับเริ่มต้นไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่

นอกจากนี้ ดร.ปรเมษฐ์ ยังเป็นวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดความรู้ด้านการออกแบบและพัฒนานวัตกรรม โดยริเริ่มโครงการพัฒนาผู้ประกอบการด้านนวัตกรรมอาหาร ที่มุ่งสร้างนักธุรกิจนวัตกรรมรุ่นใหม่ผ่านการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการ ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการไทยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่ตอบโจทย์อนาคต

ดร.ปรเมษฐ์ ชุมยิ้ม

คุณวีรดาอร พึ่งโพธิ์เจริญพันธ์

คุณวีรดาอร พึ่งโพธิ์เจริญพันธ์

น้ำปลาร้าภาทอง

คุณวีดารอร หรือคุณหนิง เป็นนักธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตน้ำปลาร้าคุณภาพสูง เธอมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่ง ที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าให้มีมาตรฐานและคุณภาพที่ดี. ซึ่งด้วยประสบการณ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าที่มีมาตรฐาน เธอสามารถพัฒนาสูตรและกระบวนการผลิตจนมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ น้ำปลาร้าของเธอถูกวางขายในวงกว้าง มากกว่านั้นยังทำงานร่วมกับร้านอาหารชื่อดังมากมาย รสชาติปลาร้าและน้ำปลาร้าที่ผ่าานมือคุณหนิง เป็นที่ต้องใจกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการอาหารไทยแท้ ๆ รสชาติอร่อย และปลอดภัย นอกจากนี้ เธอยังเป็นผู้สนับสนุนการส่งเสริมวัฒนธรรมการบริโภคอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ​อีกด้วย

บำเพ็ญ ไชยรักษ์

ผู้จัดการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูพันธุ์ข้าวพื้นบ้าน “หอมดอกฮัง”

บำเพ็ญ ไชยรักษ์ เป็นผู้เขียนหนังสือ “นิทานธรณีเกลือ: เล่าความลับใต้ดินอีสาน”  ทำงานวิจัยและเขียนบทความเรื่องเกลือหลายชิ้นที่สะท้อนความรู้เรื่องเกลืออีสานและปัญหาที่เกี่ยวข้องในมิตินิเวศ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้บำเพ็ญ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนเพื่อการอนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นบ้าน “หอมดอกฮัง” เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นบ้านและฟื้นฟูระบบนิเวศเกษตร ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการใช้ที่ดินในชุมชนที่ทำ “นาโคก”  คือนาแปลงเล็ก ๆ ที่มีป่าล้อมรอบ สามารถอนุรักษ์และพัฒนาพันธุ์ข้าวพื้นบ้านกว่า 300 สายพันธุ์ในแปลงอนุรักษ์ของกลุ่มและขยายพันธุ์ข้าวพื้นบ้านที่มีคุณสมบัติดีต่อสุขภาพเป็นที่นิยมของของผู้บริโภค มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างแบรนด์ “หอมดอกฮัง” ที่พยายามเชื่อมโยงผู้บริโภคให้ความตระหนักในการอนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศเกษตรที่ถูกทำลายลงอย่างมากจากเกษตรเชิงเดียวที่ใช้สารเคมีเข้มข้น ในงานครั้งนี้คุณบำเพ็ญจะได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องความของพันธ์ “เกลือ”  “ปลา” และ “ข้าว” ในวัฒนธรรมปลาแดกอันใกล้ชิดกับผู้คนในอีสาน

บำเพ็ญ ไชยรักษ์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อมฤต หมวดทอง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อมฤต หมวดทอง

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

แม้จะเป็นสถาปนิก แต่ความหลงใหลในเกลือ ทำให้เขาสนใจเกลือในมิติของพื้นที่หรือสถานที่แหล่งผลิตเกลือในแบบต่าง ๆโดยเฉพาะเกลือสินเธาว์ของภาคอีสานอย่างถึงแก่น หากได้มีโอกาสพูดคุยกับอาจารย์ อาจจะเริ่มต้นจากเกลือ แต่ไหลเรื่อยไปถึงประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐาน สภาพแวดล้อม จนกระทั่งชุมชนอาคารบ้านเรือน กับวิถีชีวิตผู้คนที่เกี่ยวข้อง

ในงานนี้ อาจารย์จะร่วมกับ คุณบำเพ็ญ ไชยรักษ์ ชวนทุกคนทำความรู้จัก “ปลาร้า” ตั้งแต่เริ่มต้น พาทุกคนไปทำความเข้าใจกับ “เกลือ” ที่ใช้ในการหมักปลาร้า ลองแบ่งเวลามาพบปะพูดคุยแล้วจะรู้ว่าเกลือนั้นเป็นอะไรมากกว่าที่คุณคิด

คุณชุตยาเวศ สินธุพันธ์ุ

Rice Hub Thailand

คุณชุตยาเวศ เป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร โดยเฉพาะ “ข้าวไทย” เป็นอย่างมาก เขาเชื่อว่า การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ข้าวจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับชุมชน โดย Rice Hub Thailand ที่เขามุ่งมั่นอยู่นั้น เขาตั้งใจอย่างยิ่งที่จะสร้างศูนย์กลางความร่วมมือและเครือข่ายนักวิจัย และนักปรับปรุงพันธุ์ข้าวในประเทศและนานาชาติ เพื่อพัฒนาพันธุ์ข้าวอย่างแม่นยำและรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อจะเพิ่มขีดความสามารถของพันธุ์ข้าวไทยไ ขณะเดียวกัน เขายังได้สร้างฐานข้อมูลองค์ความรู้ด้านงานวิจัยข้าวของประเทศไทยและฐานข้อมูลพันธุ์ข้าว เพื่อต่อยอด เพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวตลอดจนการแปรรูปเพิ่มมูลค่าอีกด้วย ความหลงใหลในข้าวเป็นเอกอุนี้ จะทำให้บทสนาทข้าว เกลือ และปลาร้าในงานสัมมนา ออกรสชาติมากกว่าที่ควรจะเป็นอย่างแน่นอน

คุณชุตยาเวศ สินธุพันธ์ุ

ศาสตราจารย์ ดร.จินตนาภรณ์ วัฒนธร

ศาสตราจารย์ ดร.จินตนาภรณ์ วัฒนธร

มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ด้วยประสบการณ์ด้านการวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ทำให้อาจารย์จินตนาภรณ์บุกเบิกและเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเพิ่มมูลค่าของอาหารสุขภาพ โดยการนำความรู้เกี่ยวกับบทบาทของสารต่างๆ ต่อร่างกายและกระบวนการตอบสนองของร่างกายต่อสารต่างๆมาพัฒนาอาหารสุขภาพ โดยมีงานวิจัยและนวัตกรรมเกี่ยวกับการพัฒนาอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ อีกทั้งยังสนับสนุนการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นในการผลิตอาหาร และมุ่งหวังที่จะสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ตลาด อาจารย์จินตนาภรณ์เชื่อว่าการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับชุมชนและสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมอาหารของไทย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พชญ อัคพราหมณ์

มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ผศ.ดร.พชญ อัคพราหมณ์ เป็นนักวิชาการ นักวิจัย ศิลปิน-นักการละคร สังกัดคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เขาศึกษาศิลปะการละครสมัยใหม่และมีความหลงใหลในศิลปะการแสดงท้องถิ่นอีสานซึ่งเป็นถิ่นฐานบ้านเกิด เขาศึกษาศิลปะการแสดงหมอลำในระดับปริญญาเอก โดยมุ่งทดลองและค้นหาวิธีการสร้างการแสดงหมอลำในรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมัยใหม่กับท้องถิ่น ในหัวข้อนี้จะเชิญชวนทุกท่านมาฟังว่า การแสดงหมอลำซึ่งนับได้ว่าเป็นรากเหง้าและความบันเทิงท้องถิ่นจะผสานกับโลกได้อย่างไร 

ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.พชญ อัคพราหมณ์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.ศิริศักดิ์ เหล่าจันขาม

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริศักดิ์ เหล่าจันขาม

มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริศักดิ์ เหล่าจันขาม หรือ อาจารย์เปาโล  เป็นนักวิจัยที่มีบทบาทสำคัญในการศึกษา และส่งเสริมหมอลำ เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าใจวัฒนธรรมอีสานอย่างลึกซึ้ง อาจารย์มุ่งเน้นที่จะถ่ายทอดความรู้และจิตวิญญาณของหมอลำให้กับคนรุ่นใหม่ ผ่านการจัดกิจกรรมและการแสดงที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยเชื่อว่าหมอลำเป็นเครื่องมือในการสร้างเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ยั่งยืน ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับสากล ในงานปลาร้าหมอลำครั้งนี้ อาจารย์เปาโลจะชวนมาพูดคุยและนำเสนอแนวคิดใหม่ของการนำวัฒนธรรมอีสานสู่สากล รวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าในมรดกทางวัฒนธรรม

อาจารย์อาทิตย์ คำหงษ์ศา

วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

อาจารย์อาทิตย์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีการแสดงหมอลำเป็นอย่างยิ่ง จากความผูกพันตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้เขาหลงใหล และผูกร่างกายของตัวเองเข้ากับจิตวิญญาณแห่งหมอลำผสานไว้ด้วยกัน อาจารย์และผองเพื่อนผู้รักในดนตรีอีสาน ยังเคยร่วมกันตั้งวง “All-Thidsa Molam Band” วงหมอลำร่วมสมัยที่มีการนำเครื่องดนตรีอีสานหลายชนิด มาประยุกต์ใช้ในการบรรเลงเพลงหมอลำร่วมกับท่วงทำนองแบบตะวันตก และโดยส่วนตัวอาจารย์เองมุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพด้านดนตรีในนักเรียนและมุ่งหวังให้การศึกษาในด้านนี้ได้รับการยอมรับในสังคม เพราะอาจารย์อาทิตย์เชื่อเหลือเกินว่าศิลปะและวัฒนธรรมมีบทบาทสำคัญในการสร้างความรู้สึก และความเข้าใจในสังคมที่หลากหลาย อีกทั้งยังอยากทำให้หมอลำก้าวสู่ความเป็นสากลและเข้าถึงชาวโลกมากยิ่งขึ้น

อาจารย์อาทิตย์ คำหงษ์ศา